หลักคำสอนต่างๆ ที่พระพุทธเจ้าตรัสไว้เกี่ยวกับเรื่องการใช้เวลามีมากมาย แม้แต่แต่ละขณะอย่างที่ผู้เรียนทางธรรมย่อมจำกันได้ดี เช่นที่ว่า ขโณ โว มา อุปจฺจคา เวลาแม้แต่ขณะเดียวก็อย่าให้ผ่านล่วงท่านไปเสีย อันนี้ก็หมายถึงว่าผู้ที่ปฏิบัติธรรม ถ้าทำถูกต้องจริงจังจะได้ประโยชน์แม้กระทั่งทุกขณะจิต เช่นว่า ทุกขณะจิตนี่ให้อยู่ด้วยความรู้ คืออยู่ด้วยปัญญา เป็นต้น จนกระทั่งไม่ให้เกิดความเสียหาย แม้แต่ความขุ่นมัวเศร้าหมองใจขึ้นมาเลย
แต่จะปฏิบัติอย่างไรก็ตามในเรื่องการใช้เวลาให้เป็นประโยชน์ พูดรวมแล้วก็อยู่ในหลักของความไม่ประมาทนั่นเอง คือเราจะต้องอยู่อย่างไม่ประมาท หมายความว่ามีความกระตือรือร้น ขวนขวาย ไม่นิ่งนอนใจ ไม่เผอเรอ ไม่ผัดเพี้ยน แต่ทำการต่างๆ ด้วยมีสติ
สติจะคอยเตือนว่ามีอะไรที่จะต้องทำ อะไรเป็นกิจหน้าที่ของตน ระลึกขึ้นมาแล้วก็ไม่ปล่อยผ่านไปเฉยๆ ก็นำมาทำมาปฏิบัติให้มันจบมันเสร็จไป ในทางตรงข้ามมีอะไรที่จะพลาดพลั้งเสียหาย เราก็ไม่ยอมถลำพลาดไป สติก็จะมากันไม่ให้เสื่อม แล้วก็จะให้ฉวยโอกาสแห่งความดีงามและความเจริญ หรือการสร้างสรรค์ นี้เป็นหน้าที่ของสติที่ทำให้เราไม่ประมาท ถ้ามีความเป็นอยู่ไม่ประมาทอย่างนี้ พระพุทธเจ้าทรงรับรองว่าจะเจริญแน่นอน เรียกว่าไม่มีความเสื่อม
แต่เป็นเรื่องยาก คนเรานี่ ถ้ามีความสุขแล้วสบายแล้ว ก็มักจะเริ่มเฉื่อย แล้วก็จะทำให้ชักจะเนือย ชักช้าลง แล้วก็อาจจะเรื่อยเปื่อย เฉื่อยชา ก็คือประมาท หมายความว่าคนที่ประสบความสำเร็จอะไรสักอย่าง ถ้ามัวดีใจก็เลยเพลินประมาทไปเหมือนกัน ไม่ว่าความดี ความสุข ความสำเร็จ ไม่ว่าอะไร ทำให้คนประมาทได้ทั้งนั้น
สิ่งที่ดี ถ้าใช้ไม่เป็น ก็กลายเป็นปัจจัยแห่งความเสื่อมได้ทั้งนั้น เพราะฉะนั้นพระพุทธเจ้าจึงตรัสสรุปไว้ว่าเราจะต้องไม่ประมาท แม้จะก้าวหน้า เจริญดี มีความสุข ประสบความสำเร็จ อะไรอย่างไรก็ตาม ก็ต้องไม่ประมาทไว้ตลอดเวลา เมื่อไม่ประมาท มันก็ไม่เสื่อม
คนที่ว่าเจอพิษของอนิจจัง ก็เพราะว่าเวลาเปลี่ยนแปลงไป ได้รับความสุขความเจริญแล้วเพลิดเพลินมัวเมาประมาท ก็เลยเสื่อม เรียกว่าเข้าวงจรแห่งความเจริญแล้วก็เสื่อม แต่พระพุทธเจ้าตรัสสอนไว้ว่า ถ้าท่านไม่ประมาท ท่านจะไม่มีเสื่อม เพราะท่านจะทำเหตุแห่งความเจริญต่อไป และป้องกันปิดกั้นช่องทางของความเสื่อมด้วย
นี้เป็นเรื่องของความไม่ประมาท ซึ่งเป็นเรื่องใหญ่ที่ชาวพุทธทุกคนจะต้องถือเป็นหลักสำคัญ จะต้องปฏิบัติ เพราะเป็นโอวาทครั้งสุดท้ายของพระพุทธเจ้า และพระพุทธเจ้าทรงย้ำตลอดเวลาในการบำเพ็ญพุทธกิจ เรื่องไม่ประมาทก็เป็นอันว่าเกี่ยวกับกาลเวลา ต้องทำกันตลอดเวลา ทั้งปี ต้องอยู่กันด้วยความไม่ประมาท