ถาม มีเรื่องอะไรบ้างที่ทางรัฐไม่ควรเข้ามาก้าวก่ายในศาสนจักร
ตอบ มีหลายเรื่องทีเดียว ว่าโดยหลักการก็ไม่ควรเข้ามาก้าวก่ายอยู่แล้ว เพราะตามหลักความสัมพันธ์ที่ถูกต้องก็เป็นการช่วยอุปถัมภ์บำรุงคุ้มครองให้กำลัง แม้แต่การชำระล้างปกติก็เป็นเรื่องของการให้กำลังแก่ศาสนาในการชำระภายใน คือ ก็ยังถือทางฝ่ายสถาบันศาสนาเป็นหลักอยู่นั่นเอง
ถ้าจะให้เข้าใจชัดในเรื่องนี้ ก็ให้พิจารณาจากหลักความสัมพันธ์ที่พูดมาแล้วข้างต้น คือฝ่ายรัฐนั้นจะเข้ามาช่วยอุปถัมภ์บำรุงคุ้มครองทางฝ่ายศาสนา คือช่วยให้ท่านได้มีโอกาสทำหน้าที่ของท่านในทางธรรม ด้วยการแนะนำสั่งสอนธรรมแก่ประชาชน ทีนี้ในตอนทำหน้าที่ของท่าน ก็เป็นเรื่องที่จะต้องให้ความเป็นอิสระแก่ท่าน จุดที่ไม่ก้าวก่ายก็อยู่ตรงนี้ คือรัฐจะช่วยอุปถัมภ์ในทางวัตถุเป็นต้น ช่วยให้กำลังต่างๆ ให้ท่านสามารถทำหน้าที่ของท่านด้วยดี แต่ในการทำหน้าที่โดยตรงของท่านแล้ว รัฐก็ไม่ยุ่งเกี่ยวแทรกแซง
เมื่อรัฐทำถูกต้องตามหลักความสัมพันธ์นี้แล้ว ผลดีก็จะเกิดแก่รัฐเอง คือเมื่อพระสงฆ์มีกำลังสามารถปฏิบัติหน้าที่ของตนในทางธรรมได้อย่างดีแล้ว ประชาชนประพฤติอยู่ในศีลธรรม ตั้งใจทำหน้าที่การงาน ปฏิบัติการต่างๆ ที่ชอบธรรม สังคมสงบสุข มีความเรียบร้อย ก็เป็นประโยชน์แก่การปกครอง เป็นประโยชน์แก่รัฐอยู่ในตัว
การก้าวก่ายจะเกิดขึ้นและเป็นผลเสียหายในเมื่อทางฝ่ายรัฐหรือผู้ปกครองนั้น ไม่ได้ปกครองเพื่อให้เกิดผลดีแก่การปกครองแท้จริง แต่ปกครองเพื่อผลประโยชน์ของตนเองในการที่จะเสวยอำนาจ ในการที่จะได้มีความมั่นคงของอำนาจส่วนตัว หรือต้องการผลประโยชน์ต่างๆ และเข้าไป ก้าวก่ายโดยเอาทางฝ่ายพระสงฆ์หรือสถาบันทางศาสนาเข้ามาเป็นฐานรองรับอำนาจ หรือเป็นเครื่องสนับสนุนการมีอำนาจนั้นในแง่ต่างๆ ทำให้ท่านย่อหย่อนในการปฏิบัติหน้าที่ ในการศึกษาธรรมวินัย ในการที่จะเผยแพร่แนะนำสั่งสอนธรรมที่ถูกต้องแก่ประชาชน อันนี้จะเกิดผลเสีย